Electrical injuries
อันตรายจากไฟฟ้าแบ่งออกเป็น
- ไฟฟ้าดูด (electric shock)เกิดขึ้นเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร (ยกเว้นไฟฟ้าสถิต หรือ electrostatic discharge)ซึ่งความรุนแรงขึ้นอยู่กับ
- แรงดันไฟฟ้า (voltage, V) แบ่งออกเป็น high-voltage (> 1,000 V) และ low-voltage (< 1,000 V) แต่ระดับที่มักทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงคือ > 600 V
- ความต้านทางร่างกาย(resistance, R) โดยเฉลี่ย ~ 1,000 Ω
- ปริมาณกระแสไฟฟ้า(current, I) สามารถคำนวณได้จาก V = IR
- ชนิดของกระแสไฟฟ้า โดยกระแสสลับ (AC) จะมีความรุนแรงมากกว่าไฟกระแสตรง (DC) เพราะทำให้เกิด VFและสามารถเกิด muscle tetany ทำให้ไม่สามารถหลุดจาก electrical shock ได้ แต่ทั้งไฟ AC และ DC สามารถดีดให้กระเด็น ทำให้เกิดอันตรายได้
- เส้นทางที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ทำให้บอกได้ว่าอวัยวะใดที่อาจจะได้รับบาดเจ็บบ้าง
- ระยะเวลาที่สัมผัส โดยเฉพาะเมื่อเกิด tetanic contracture
Prehospital care
- รู้จักมาตรการความปลอดภัยเบื้องต้น เช่น ต้องดับไฟฟ้าทุกวงจร อยู่ในระยะปลอดภัย > 10 เมตรจากสายไฟฟ้าแรงสูงที่ตกอยู่ ระวังไม่สัมผัสสายโลหะที่ยึดโยงเพื่อพยุงเสาโทรศัพท์หรือเสาไฟฟ้า เพราะอาจมีกระแสไฟฟ้าได้ ถ้ามันหลุดออกมาจากใต้ดิน ไม่สัมผัสรถที่มีสายไฟพาดอยู่ รองเท้ายางและถุงมือยางธรรมดาไม่สามารถกันกระแสไฟฟ้าได้ ไม้หรือวัสดุอื่นๆสามารถนำกระแสไฟฟ้าได้ถ้า > 600 V
- ช่วย rescue breathing ทันทีที่ทำได้ เช่น ขณะยังอยู่บนเสาไฟฟ้า แล้วจึงทำ chest compression เมื่อลงมาถึงพื้น เพราะมักเกิด respiratory arrest นานหลายนาที ขณะที่หัวใจอาจเกิด ventricular fibrillation (low-voltage AC) หรือ transient asystole (high-voltage AC และ DC) ซึ่งอาจกลับมาเป็น NSR ได้เอง แต่ยังไม่กลับมาหายใจเอง
- ให้พยายามทำ spinal immobilization เพราะสามารถเกิด spinal fracture ได้จาก tetanic muscle contracture หรือจากอุบัติเหตุอื่นๆ
Ix: ใน low-voltage ไม่จำเป็นต้องตรวจ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ
- ECG; CBC, BUN, Cr, electrolytes, CPK, Coagulogram, DIC panel; US, CT brain/abdomen เมื่อมีข้อบ่งชี้
Management
- ATLS, ACLS with spinal immobilization
- ECG monitoring ในรายที่มีอาการ หรือเป็น high-voltage injuries
- ตรวจจาก Head-to-toe เพราะสามารถเกิดการบาดเจ็บได้ในทุกอวัยวะ ตรวจหัวใจ ปอด ตา หู แขนขา หลัง ท้อง ระบบประสาท ผิวหนัง
ผลของกระแสไฟฟ้าต่อร่างกาย
|
- Fluid resuscitationโดยคำนวณจาก Parkland formula แต่ความต้องการ IVF มักจะมากกว่าที่คำนวณได้ เพราะจะมี deep tissue damage มากกว่าที่เห็นได้จาก cutaneous burn
- คอยติดตามและรักษา compartment syndrome, rhabdomyolysis และ renal failure
- การรักษาอื่นๆเช่นเดียวกับ thermal burnเช่น Stress ulcer prophylaxis, NG tube ถ้ามี bowel ileus
- PregnancyGA > 20 wks. ให้ทำ fetal heart rate และuterine activity monitoring อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- Oral injuryในเด็กจากการที่เด็กไปอมปลายสายไฟ มักเกิดแผลบริเวณ lateral commissure, tongue หรือ alveolar ridge ในระยะแรกอาจไม่มีเลือดออก ให้ทา ATB ointment แต่อาจมี severe bleeding จาก labial artery ได้หลัง 5 วัน-2 สัปดาห์ ต้องสอนให้คนดูแลรู้จักวิธีหยุดเลือด และนัด F/U แพทย์เฉพาะทางเพื่อป้องกัน deforming scar
Disposition
- Low-voltage injuries (< 600 V) สามารถ D/C ได้ ถ้าเป็นแค่ไฟบ้าน (220 V AC) ตรวจร่างกาย และ ECG ปกติ ส่วนในรายที่ยังรู้สึกไม่ปกติหรือพบ ECG ผิดปกติ ให้สังเกตอาการ 6 ชั่วโมง แล้วประเมินซ้ำ
- Admit ในรายที่เป็น high-voltage injuries (> 600 V) และในรายที่เป็น low-voltage injuries ร่วมกับ burn wound หรือมีความผิดปกติอื่นๆ (chest pain, palpations, LOC, confusion, weakness, dyspnea, abdominal pain, vascular compromise, abnormal ECG/CPK/urine myoglobin)
Lightning injuries
- ศึกษาได้จากบทความของ นพ.คเชนทร์ ปิ่นสุวรรณ: Link
Ref: Tintinalli ed8th